เจาะลึก 7 สิ่งที่ควรตรวจสอบช่างไฟฟ้าที่น่าเชื่อถือ

“7 สิ่งสำคัญที่ควรตรวจสอบ” ก่อนตัดสินใจเรียกช่างไฟมาซ่อมที่บ้าน

1. ตรวจสอบใบรับรองหรือประสบการณ์การทำงาน

ช่างไฟฟ้าที่น่าเชื่อถือควรมีใบรับรองวิชาชีพจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน หรือมีประสบการณ์ทำงานจริงในระบบไฟฟ้าภายในบ้าน อาคาร หรือโรงงาน หากไม่มีเอกสารรับรอง ควรอย่างน้อยให้ลูกค้าเก่าการันตีผลงานเพื่อสร้างความมั่นใจ

2. มีรีวิวหรือคำแนะนำจากลูกค้าจริง

การดูรีวิวบน Google, Facebook หรือเว็บไซต์บริการช่างช่วยให้เห็นภาพรวมความน่าเชื่อถือของช่างไฟฟ้าคนนั้นๆ หากช่างมีรีวิวเชิงบวกมาก บ่งบอกถึงผลงานที่ดีและความรับผิดชอบ แต่ถ้ามีรีวิวแย่ซ้ำๆ เกี่ยวกับ “มาช้า”, “คิดราคาไม่ตรง” หรือ “ซ่อมแล้วเสียอีก” ก็ควรพิจารณาให้รอบคอบ

3. ขอใบเสนอราคาและขอบเขตงานล่วงหน้า

ก่อนเริ่มงานทุกครั้ง ควรขอให้ช่างไฟฟ้า ออกใบเสนอราคาที่ระบุรายละเอียดชัดเจน เช่น ค่าบริการเดินสายไฟ เปลี่ยนเบรกเกอร์ ซ่อมปลั๊ก ฯลฯ เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดและการคิดราคาเกินจริง หากเป็นงานซ่อมด่วน ควรสอบถามราคาคร่าวๆ ก่อนให้เข้าหน้างาน

4. มีความรู้และอธิบายงานได้อย่างเข้าใจง่าย

ช่างไฟมืออาชีพจะสามารถอธิบายสาเหตุของปัญหาและแนวทางแก้ไขได้ชัดเจน เช่น “ไฟช็อตเพราะสายกราวด์หลวม” หรือ “เบรกเกอร์ตัดเพราะโหลดเกิน” การอธิบายด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญและซื่อสัตย์ในการทำงาน

5. ตรงต่อเวลาและรับงานฉุกเฉินได้

โดยเฉพาะบริการ ช่างไฟ 24 ชั่วโมง หากช่างสามารถเข้าหน้างานได้ตามเวลาที่ตกลง ถือเป็นจุดสำคัญของความเป็นมืออาชีพ เพราะไฟฟ้าคือเรื่องที่ต้องแก้ไขทันที ไม่สามารถปล่อยไว้นานได้ การมีทีมช่างพร้อมบริการตลอดวันจึงช่วยเพิ่มความมั่นใจให้เจ้าของบ้าน

6. ใช้อุปกรณ์และวัสดุมาตรฐาน

อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐานอาจทำให้เกิดไฟไหม้ได้ภายหลัง ดังนั้นควรเลือกช่างที่ใช้สายไฟ ปลั๊ก เบรกเกอร์ หรืออุปกรณ์ที่ผ่าน มอก. (มาตรฐานอุตสาหกรรม) เท่านั้น หากช่างเสนอวัสดุราคาถูกกว่าปกติมาก ควรถามยี่ห้อและสเปกให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจ

7. มีช่องทางติดต่อชัดเจนและรับประกันหลังงาน

ช่างไฟฟ้าที่ดีควรมีช่องทางติดต่อที่ตรวจสอบได้ เช่น เบอร์โทร เว็บไซต์ หรือเพจ Facebook พร้อมระบุชื่อทีมงานชัดเจน นอกจากนี้ควรถามเรื่อง การรับประกันหลังการซ่อม ว่ามีระยะเวลากี่วัน หากเกิดปัญหาซ้ำจะกลับมาแก้ให้หรือไม่

Facebook
Twitter