1. ใช้อุปกรณ์ตัดวงจรอัตโนมัติ การติดตั้งอุปกรณ์ตัดวงจรอัตโนมัติ เป็นส่วนนึงที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานไฟฟ้า เพราะถ้ามีกระแสไฟฟ้าที่รั่วไหลออกจากเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือมีกระแสไฟฟ้าลัดวงจร อุปกรณ์นี้ตัดวงจรทันที
2. ติดตั้งสายดิน สายดินจะช่วยลดอันตรายที่จะเกิดขึ้นภายในวงจร จะติดตั้งไว้อยู่ที่เมนไฟ และมักจะทำงานคู่กับอุปกรณ์ตัดวงจรอัตโนมัติ
3. แยกวงจร ให้เป็นส่วนๆ การแยกวงจรให้เป็นส่วน ๆ จะทำให้แก้ไขและบำรุงรักษาง่ายขึ้น ยิ่งเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีการใช้ปริมาณไฟฟ้าสูง ๆ เช่น เครื่องปรับอากาศ ควรมีการแยกสวิตช์โดยเฉพาะ
4. เดินสายไฟภายในท่อร้อยสายไฟ การเดินสายไฟโดยเฉพาะการเดินในที่ลับตาเช่น ใต้ผนัง ใต้ฝ้า ควรจะมีการเดินภายใน ท่อร้อยสายไฟ ไม่ว่าจะเป็นท่อแข็งหรือแบบท่ออ่อน เพราะการใช้งานตามสภาพแวดล้อมอาจจะโดนสิ่งแปลกปลอม เช่น ฝุ่น น้ำ แมลง หรือสัตว์อื่น ๆ ที่จะเข้าไปทำลายสายไฟ ซึ่งจะทำให้สายไฟชำรุดเสียหายได้
5. ตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าอยู่ตลอด ทั้งอุปกรณ์ไฟฟ้า และเครื่องใช้ไฟฟ้า จะมีอายุการใช้งานในตัว ดังนั้นเมื่อมีการใช้งานในระยะเวลาหนึ่ง ควรมีการตรวจเช็คและเปลี่ยนใหม่ถ้าหากมีการชำรุด เช่น สายไฟบ้านสมัยก่อน กับสายไฟต้องโดนแดด โดนฝนนาน ๆ จะมีอายุการใช้งานไม่เกิน 10 ปี แต่สายไฟพีวีซี ที่ได้มาตรฐานในปัจจุบันมีอายุการใช้งานประมาณ 15-20 ปี
6. เลือกช่างติดตั้งไฟฟ้าที่ไว้ใจได้ สุดท้ายการติดตั้งระบบไฟฟ้า ก็จะขึ้นอยู่กับช่างที่เลือกใช้ติดตั้งอีกด้วย เพราะเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยกับคนทั้งบ้าน
CR : www.tpe-trading.com