ความเข้าใจผิดๆกับการใช้วัสดุต่างๆทำการซ่อมหลังคารั่ว ทำให้แก้ปัญหาหลังคารั่วได้ชั่วคราวเท่านั้นเป็นการซ่อมที่ไม่ตรงจุดและอาจจะเพิ่มปัญหามากขึ้นอีกด้วย เนื่องจากวัสดุซ่อมหลังคารั่วแต่ละชนิดมีการเสื่อมสภาพตามกาลเวลา ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นหลังจากเวลาผ่านไปไม่นาน ครั้งนี้จะมาดูความเข้าใจผิดเกี่ยวกับวัสดุอุดรอยรั่วหลังคาในแบบต่างๆ  

1.ซ่อมหลังคารั่วด้วยการฉีดโฟมใต้หลังคา

ซ่อมหลังคารั่ว ด้วยวิธีการ การฉีดโฟมใต้หลังคา เป็นเข้าใจผิดว่าสามารถแก้ไขปัญหาได้ แต่จะรู้หรือไม่ว่าจะได้ผลตรงกันข้าม เพราะการฉีดโฟมใต้หลังคาจะไปดันกระเบื้องให้แยกออกและกระเบื้องจะติดกันเป็นแผ่นเดียวกัน ทำให้เวลาเปลี่ยนกระเบื้องหรือการซ่อมหลังคารั่วยากลำบากและทำให้กระเบื้องแตกมากกว่าเดิม ตัวโฟมไม่สามารถประสานเข้ากับรอยแตกกระเบื้องหรือจุดรั่วซึมทำให้เกิดน้ำรั่วตามมาได้อีกครั้ง

2.ซ่อมหลังคารั่วด้วยการซีลหัวสกรู

หลังคารั่วตามสกรู เป็นปัญหาที่พบเจอบ่อย เพราะช่างติดตั้งยึดสกรูเอียงหรือเกิดการเสื่อมสภาพ ทำให้หลังคารั่วซึม การซ่อมหลังคารั่วด้วยการซีลหัวสกรูเป็นวิธีที่นิยมสำหรับปัจจุบัน เพราะมีราคาถูก และง่ายต่อการใช้งานแต่หารู้ไม่ว่า ไม่สามารถแก้ปัญหาได้แบบถาวร เพราะจะเกิดการเสื่อมสภาพของซีล และมีอายุการใช้งานแค่ 6 เดือนถึง 1 ปีเท่านั้น จึงทำให้เกิดการซ่อมหลังคารั่วซ้ำซ้อน

3. ซ่อมหลังคารั่วด้วยยาซิลิโคน

ซ่อมหลังคารั่ว ด้วยยาซิลิโคน ไม่ใช้วิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้อง เนื่องจากซิลิโคนไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในการซ่อมหลังคาแบบถาวร เป็นการแก้ปัญหาแค่เบื้องต้นเท่านั้น เพราะตัวซิลิโคนจะเสื่อมสภาพ เมื่อเจอกับความร้อนและซิลิโคนจะไม่ยึดติดกับตัวกระเบื้อง เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ สามารถใช้งานได้เพียง 6 เดือนถึง 1 ปีเท่านั้น และกลับมามีปัญหาหลังคารั่วเหมือนเดิม 

4. ซ่อมหลังคารั่วด้วยการโปะปูนอุดหลังคารั่ว

การโปะปูนหลังคารั่วนั้นเป็นการซ่อมหลังคารั่วระยะแรกจะได้ผลดี แต่เมื่อผ่านไปสักระยะ เมื่อปูนเกิดการแข็งตัวจะมีช่องว่างระหว่างปูนกับกระเบื้อง ทำให้น้ำซึมไปยังจุดที่รั่วเหมือนเดิมจะเห็นได้ว่าการการโปะปูน อุดหลังคารั่ว เป็นความเข้าใจที่ผิดเกี่ยวกับการซ่อมหลังคารั่ว และทำให้โครงสร้างรับน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น

5. ซ่อมหลังคารั่วด้วยการทากันซึม

เนื่องจากไม่รู้จุดหลังคารั่วที่แน่นอน ช่างจึงแนะนำการทากันซึมทั่วหลังคาเพื่อช่วยป้องกันอีกหนึ่งชั้น แต่เป็นความเชื่อที่ผิด การทากันซึ่งทั่วหลังคาเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุเท่านั้น เมื่อเวลาผ่านไป 6 เดือนถึง 1 ปี กันซึมก็จะเริ่มเสื่อมสภาพลงทำให้กระเบื้องติดกันเป็นแผ่นเดียวกัน ทำให้เวลาต้องซ่อมหลังรั่วครั้งต่อไปต้องรื้อกระเบื้องออกทั้งหมดถึงจะซ่อมหลังคารั่วได้